PwC คว้ารางวัล ‘นวัตกรรมดิจิทัลแห่งปี ประจำปี 2566’ ที่งาน International Accounting Forum & Awards

PwC คว้ารางวัล ‘นวัตกรรมดิจิทัลแห่งปี ประจำปี 2566’ ที่งาน International Accounting Forum & Awards
 

• รางวัลยกย่องความสามารถด้านเอไอสำหรับผู้ตรวจสอบบัญชีของ PwC (การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ การตรวจสอบการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินโดยใช้เอไอ และฟังก์ชันการค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ)
• ความสามารถด้านเอไอของ PwC ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ความคิดริเริ่ม หรือ นวัตกรรมใหม่ในการตรวจสอบบัญชีซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการปรับปรุงคุณภาพการตรวจสอบบัญชี ประสิทธิภาพ หรือเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้า’

กรุงเทพฯ, 12 กันยายน 2566 – PwC ได้รับรางวัล ‘นวัตกรรมดิจิทัลแห่งปี ประจำปี 2566’ (2023 Digital Innovation of the Year) ที่งาน International Accounting Forum & Awards ครั้งที่ 12 ที่ถูกจัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา สำหรับชุดบริการเอไอ (Artificial Intelligence: AI) ระดับโลกเพื่อสนับสนุนผู้ตรวจสอบบัญชี

ทั้งนี้ การส่งรางวัลของ PwC ในหัวข้อ “บริการเอไอสำหรับผู้ตรวจสอบบัญชีรุ่นต่อไป” มุ่งเน้นไปที่ความสามารถชั้นนำของอุตสาหกรรมของ PwC เช่น การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ และการตรวจสอบการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินด้วยเอไอ ตลอดจนความสามารถในการค้นหาศักยภาพของเอไอแบบรู้สร้าง (Generative AI) ด้วยวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมของบริษัทเครือข่าย PwC ทั่วโลก ยังคงขับเคลื่อนการสร้างโซลูชันที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีที่เป็นพื้นฐานของชุดบริการเอไอสำหรับการตรวจสอบบัญชีรุ่นต่อไปของ PwC

งานมอบรางวัลประจำปี ยังเป็นการรวมตัวกันของ “บริษัทบัญชีระดับโลก พร้อมด้วยหน่วยงานกำกับดูแล และองค์กรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม ที่ปรึกษา บริษัทกฎหมาย และผู้ให้บริการเทคโนโลยี เพื่อมีส่วนร่วมในประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภาคส่วนและโอกาสในการเติบโต” ตามที่ระบุในเว็บไซต์ของงาน

นาย เจมส์ ชาลเมอร์ส หัวหน้าสายงานตรวจสอบบัญชีระดับโลก PwC ประเทศสหราชอาณาจักร กล่าวว่า

“PwC ลงทุนจำนวนมหาศาลในเอไอเพื่องานตรวจสอบบัญชีของเรา ซึ่งเราเชื่อว่าจะช่วยพัฒนาให้เราก้าวไปข้างหน้าในการส่งมอบงานของเรา โดยเอไอจะเพิ่มขีดความสามารถ และทำให้ทีมงานของเราสามารถมุ่งเน้นไปที่สิ่งสำคัญต่อการสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของพวกเขา”

นวัตกรรมเอไอที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ PwC ในการตรวจสอบบัญชี

การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ PwC ใช้การเรียนรู้ของเครื่องจักรบนคลาวด์ และแบบจำลองทางสถิติขั้นสูงเพื่อให้ผู้ตรวจสอบบัญชีของ PwC สามารถคาดการณ์รายได้ของลูกค้าเพื่อสนับสนุนขั้นตอนการตรวจสอบ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ธุรกรรมได้อย่างเต็มรูปแบบที่ประกอบเป็นยอดคงเหลือของรายการในงบการเงิน รวมถึงความน่าเชื่อถือของข้อมูลในตัว และการตรวจสอบความถูกต้องของแบบจำลอง ซึ่งช่วยให้ทีมงานของ PwC เข้าใจในธุรกิจของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ส่งมอบงานตรวจสอบบัญชีคุณภาพที่ถูกปรับให้เหมาะสมยิ่งขึ้น

การตรวจสอบการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงิน ด้วยเอไออันเป็นกรรมสิทธิ์ของ PwC ใช้ความสามารถของเอไอในการเพิ่มการตรวจสอบการเปิดเผยงบการเงิน และยังช่วยในการรายงานความยั่งยืนและสภาพภูมิอากาศในอนาคต ลดเวลาในการดำเนินการ เพิ่มคุณภาพ และลดภาระในกระบวนการตรวจสอบ

การสำรวจด้วยเอไอแบบรู้สร้างและฟังก์ชันการค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอของ PwC ยังช่วยให้ผู้ตรวจสอบบัญชีสามารถระบุข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ และจัดทำบทสรุปเพื่อสนับสนุนกระบวนการตรวจสอบ ความสามารถต้นแบบนี้ ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญของ PwC สามารถค้นหาคำแนะนำด้านการบัญชีและการตรวจสอบจำนวนมาก หรือปรับแต่งการค้นหาด้วยการอัปโหลดและสืบค้นเอกสารประกอบของตน โดยไม่ต้องค้นหาด้วยตัวเอง

นาย มาร์ค ฟลาเวลล์ หัวหน้ากลุ่มลูกค้าเทคโนโลยีการตรวจสอบบัญชีรุ่นถัดไประดับโลก PwC ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า

“ในฐานะองค์กรที่มีมนุษย์เป็นผู้นำและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี PwC สามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้อย่างที่ลูกค้าคาดหวังจากผู้ให้บริการมืออาชีพรุ่นต่อไป เรากำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อพัฒนาและปรับใช้ความสามารถในการเรียนรู้ของเครื่องจักรและการประมวลผลภาษาธรรมชาติทั่วทั้งระบบนิเวศการตรวจสอบบัญชีทั่วโลกของเรา

บริการที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและการใช้งานเอไอของเรา ซึ่งรวมถึงเอไอแบบรู้สร้างและการตรวจจับความผิดปกติ ช่วยแก้ปัญหาความท้าทายเดิม ๆ ซึ่งในอดีตอาจสร้างภาระให้กับทีมงานภายในและองค์กรของลูกค้า ในขณะที่พวกเขาสนับสนุนกระบวนการตรวจสอบบัญชี การเปลี่ยนผ่านจากรุ่นสู่รุ่นอย่างก้าวกระโดดนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพของเรา และช่วยให้พวกเขามีเวลาทำในสิ่งที่ดีสุดได้มากขึ้น”

PwC เป็นผู้บุกเบิกเอไอในการบริการระดับมืออาชีพ

PwC มีประวัติในการบูรณาการเอไอเข้ากับบริการตรวจสอบบัญชี โดยในปี 2560 PwC ลงทุนครั้งสำคัญในการบุกเบิกเอไอสำหรับการตรวจสอบบัญชี โดยสร้างบอทปฏิวัติวงการที่ใช้เอไอและการเรียนรู้ของเครื่องจักรเพื่อ ‘เอ็กซเรย์’ ธุรกิจ โดยวิเคราะห์จุดข้อมูลหลายพันล้านจุดในมิลลิวินาที ซึ่งมองเห็นสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ และใช้วิจารณญาณในการตรวจหาความผิดปกติในบัญชีแยกประเภททั่วไป ซึ่งบอทที่เราใช้ชื่อว่า GL.ai ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘นวัตกรรมการตรวจสอบแห่งปี’ จาก International Accounting Bulletin ประจำปี 2560

หลังจากที่ได้รับรางวัลดังกล่าวนี้ ผลงานของ PwC ในการพัฒนา Cash.ai ยังได้รับรางวัล ‘นวัตกรรมการตรวจสอบแห่งปี’ ประจำปี 2562 จาก International Accounting Bulletin โดย Cash.ai ใช้เอไอเพื่ออ่าน ทำความเข้าใจ และทดสอบเอกสารของลูกค้าโดยอัตโนมัติ รวมถึงยอดเงินสด การกระทบยอดธนาคาร หนังสือยืนยันจากธนาคาร การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และสถานะทางการเงินของสถาบันการเงิน

ที่ PwC เรากำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่พนักงานทั่วโลกจำนวน 328,000 คนของเรา ส่งมอบงานทุกสิ่งตั้งแต่การตรวจสอบบัญชี ไปจนถึงบริการด้านภาษีและกฎหมาย และการให้คำปรึกษา

ด้วยความสัมพันธ์จากการเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ PwC กำลังสร้างระบบนิเวศการตรวจสอบที่ปฏิวัติวงการสำหรับผู้ตรวจสอบบัญชีรุ่นต่อไปของเรา เทคโนโลยีที่สนับสนุนรางวัลนวัตกรรมเหล่านี้ เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะรวมอยู่ในแพลตฟอร์มการตรวจสอบบัญชีรุ่นต่อไปของ PwC ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่จะถูกบรูณาการอย่างครบวงจร ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพิ่มคุณภาพและมูลค่า และลดภาระด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพการได้มาของข้อมูล กำหนดกระบวนการที่ได้มาตรฐาน และมุ่งเน้นงานของผู้ตรวจสอบบัญชีในส่วนที่มีความเสี่ยงสูง ความพยายามที่ใช้เวลาหลายปีนี้เพื่อลงทุนในเทคโนโลยีใหม่และทบทวนกระบวนการตรวจสอบบัญชีพื้นฐาน เพิ่มมาตรฐาน ลดความซับซ้อน รวมศูนย์ และทำให้งานตรวจสอบบัญชีเป็นอัตโนมัติ การลงทุนดังกล่าว ช่วยเร่งการสร้างนวัตกรรมและช่วยให้ PwC สามารถตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งมอบประสบการณ์การตรวจสอบที่เปลี่ยนแปลงสำหรับเครือข่ายและลูกค้าทั่วโลกของ PwC โดยมุ่งเน้นที่การปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และผสมผสานเทคโนโลยีการรับรู้ ซึ่งรวมถึงการตรวจจับความผิดปกติ การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ และความช่วยเหลือด้านการตรวจสอบอัจฉริยะ