Press Release

PwC เผย 67% ซีอีโอไทยหวั่นธุรกิจของตนจะไปไม่รอดในทศวรรษหน้า หลังเจอแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและ GenAI

  • Press Release
  • 5 minute read

PwC เผย 67% ซีอีโอไทยหวั่นธุรกิจของตนจะไปไม่รอดในทศวรรษหน้า หลังเจอแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและ GenAI

ผลสำรวจล่าสุดพบ มีซีอีโอไทยน้อยกว่าหนึ่งในสามที่มั่นใจว่า
รายได้ของบริษัทของตนจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา
 

กรุงเทพฯ, 28 มีนาคม 2567 – PwC ประเทศไทย เผยรายงานผลสำรวจความเชื่อมั่นของซีอีโอไทยปีล่าสุดพบมุมมองของผู้บริหารต่อเศรษฐกิจโลกยังคงมีความแตกต่างกันอย่างมากโดย 45% คาดว่าจะลดลง ขณะที่ 45% เชื่อว่าจะดีขึ้นในปีนี้ และมีเพียง 27% เท่านั้นที่มั่นใจว่ารายได้ของบริษัทของตนในปี 2567 จะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ซีอีโอไทยส่วนใหญ่ยังแสดงความกังวลว่าธุรกิจของตนจะไปไม่รอดในอีก 10 ปีข้างหน้า หากยังดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดิม ๆ หลังเจอแรงกดดันจากกระแสการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเข้ามาของเทคโนโลยี GenAI

อย่างไรก็ดี ซีอีโอไทยมากกว่าครึ่ง (52%) ที่ถูกสำรวจเชื่อว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อน โดยอัตราเงินเฟ้อ (30%) ความเสี่ยงทางไซเบอร์ (24%) และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (21%) จะเป็นภัยคุกคามที่สำคัญสามอันดับแรกที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจในอีก 12 เดือนข้างหน้า

ทั้งนี้ สองในสามของซีอีโอชาวไทย (67%) ไม่คิดว่าธุรกิจของพวกเขาจะสามารถอยู่รอดได้ในเชิงเศรษฐกิจในอีก 10 ปีข้างหน้า หากพวกเขายังคงดำเนินธุรกิจต่อไปบนเส้นทางปัจจุบัน

นาย พิสิฐ ทางธนกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท PwC ประเทศไทย เปิดเผยถึง ‘รายงานผลสำรวจซีอีโอทั่วโลกประจำปี ครั้งที่ 27 ฉบับประเทศไทย: นำธุรกิจมุ่งสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว’ ว่า “แม้ผลสำรวจของเราในปีนี้จะพบว่า ซีอีโอไทยมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะเติบโตได้ในปีนี้ แต่พวกเขาก็กลับไม่มั่นใจว่า รายได้ของบริษัทจะเติบโตขึ้นจากปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่ผู้บริหารจะต้องปรับรูปแบบธุรกิจ สินค้า และบริการเพื่อแสวงหาโอกาสในการเติบโตใหม่ ๆ ท่ามกลางภัยคุกคามและความท้าทายที่เกิดขึ้นตลอดเวลา” นาย พิสิฐ กล่าว

“การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นอีกสองเมกะเทรนด์โลกที่จะยิ่งเข้ามาเพิ่มแรงกดดันในการทำธุรกิจให้กับซีอีโอมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเรามองไม่ต่างจากซีอีโอไทยส่วนใหญ่ว่า หากยังไม่มีการพลิกโฉมธุรกิจเพื่ออนาคตข้างหน้า ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า หลาย ๆ ธุรกิจไทยก็อาจจะไปไม่รอดในอีก 10 ปีข้างหน้า”

เขา กล่าว

ทั้งนี้ รายงานฉบับประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของ ‘รายงานผลสำรวจซีอีโอทั่วโลกประจำปี ครั้งที่ 27 ของ PwC’ ที่ได้ทำการศึกษาและรวบรวมความคิดเห็นของซีอีโอทั่วโลกจำนวนทั้งสิ้น 4,702 ราย ซึ่งรวมถึงซีอีโอจากประเทศไทย จำนวน 33 ราย ในระหว่างวันที่ 2 ตุลาคม ถึง 10 พฤศจิกายน 2566

นาย พิสิฐ กล่าวว่า สำหรับปัจจัยเชิงบวกที่คาดว่าจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2567 น่าจะมาจากแนวโน้มการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นตามสัญญาณการค้าโลกที่เริ่มฟื้นตัว เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยวภายหลังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นจากปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง เช่น การยกเว้นวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวในหลาย ๆ ประเทศ แต่ความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณฯ ปี 2567 และอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวลง รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงจะยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม

นอกจากนี้ 73% ของซีอีโอไทยยังกล่าวว่า การขาดความสามารถด้านเทคโนโลยี ถือเป็นอุปสรรคอันดับแรกที่จะส่งผลต่อการพลิกโฉมองค์กร (ในระดับปานกลาง มาก หรือมากที่สุด) ตามมาด้วยสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบ การลำดับความสำคัญของการปฏิบัติงานที่แข่งขันกัน และพนักงานขาดทักษะความสามารถที่ 57% เท่ากัน

การดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ GenAI

ข้อมูลจากรายงานผลสำรวจระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมาซีอีโอไทยได้เร่งดำเนินการในด้านต่าง ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่นเดียวกับซีอีโอทั่วโลกและในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แต่แม้ว่า 79% ของซีอีโอไทยจะกล่าวว่า ตนกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน หรือได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายประเด็นที่ซีอีโอไม่มีแผนที่จะดำเนินการ เช่น 36% กล่าวว่า พวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะลงทุนในการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศโดยอิงธรรมชาติเป็นพื้นฐาน และอีก 36% ก็ไม่มีแผนที่จะนำความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศมาผนวกเข้ากับการวางแผนทางการเงินของตนแต่อย่างใด

ยิ่งไปกว่านั้น ซีอีโอไทยมากกว่าครึ่ง (58%) ยังกล่าวว่า ตนไม่ยอมรับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ต่ำกว่าจากการลงทุนที่เป็นมิตรกับสภาพภูมิอากาศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงช่องว่างที่ยังคงมีอยู่ของการออกนโยบาย หรือมาตรการส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อกระตุ้นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของประเทศ

สำหรับการเข้ามาของ GenAI ในภาคธุรกิจนั้น รายงานผลสำรวจของ PwC ระบุว่า 36% ของซีอีโอไทยกล่าวว่า ได้มีการนำ GenAI ไปใช้ในบริษัทของตนแล้ว ขณะที่ 24% ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของบริษัทอันเนื่องมาจาก GenAI ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สอดคล้องกับตัวเลขทั่วโลกที่ 32% และ 31% และเอเชียแปซิฟิกที่ 33% และ 28%

นอกจากนี้ ซีอีโอไทยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ GenAI โดย 52% เห็นด้วยว่า GenAI จะช่วยปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการในอีก 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่ 61% กล่าวว่า GenAI จะเข้ามาเปลี่ยนวิธีที่ธุรกิจสร้าง ส่งมอบ และรวบรวมคุณค่าอย่างมีนัยสำคัญในอีกสามปีข้างหน้า อย่างไรก็ดี 58% ของซีอีโอไทยต่างเห็นตรงกันว่า GenAI จะส่งผลให้พนักงานภายในองค์กรของตนต้องหันมาพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อรองรับกับการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ

“ถึงเวลาแล้วที่ซีอีโอไทยจะต้องนำพาธุรกิจของตนสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อจัดการกับความท้าทายและจัดลำดับความสำคัญของการลงทุนและการเปลี่ยนแปลงธุรกิจเพื่ออนาคต รวมทั้งควรต้องบรรจุประเด็นเรื่องความยั่งยืนเข้าไปในกระบวนการทำงานทั่วทั้งองค์กร และที่สำคัญ คือ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ และควรผนวกกรอบการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบเข้ากับกลยุทธ์ขององค์กร”

นาย พิสิฐ กล่าว

//จบ//

ข้อความถึงบรรณาธิการ

เกี่ยวกับรายงานผลสำรวจ

PwC สำรวจความคิดเห็นของซีอีโอจำนวน 4,702 รายใน 105 ประเทศและอาณาเขตต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงซีอีโอจากประเทศไทยจำนวน 33 ราย ระหว่างวันที่ 2 ตุลาคม ถึง 10 พฤศจิกายน 2566 โดยตัวเลขของแต่ละประเทศและอาณาเขตในรายงานนี้ ได้รับการถ่วงน้ำหนักตามสัดส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่เป็นตัวเงิน (nominal GDP) ของประเทศที่ระบุ เพื่อให้แน่ใจว่ามุมมองของซีอีโอได้สะท้อนภาพรวมของภูมิภาคหลัก ๆ นอกจากนี้ ตัวเลขระดับอุตสาหกรรมและระดับประเทศมาจากข้อมูลที่ไม่ได้ถ่วงน้ำหนักจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดของซีอีโอจำนวน 4,702 รายซึ่งประกอบไปด้วย ผู้ชาย 4,088 ราย ผู้หญิง 521 ราย และผู้ที่ระบุว่าเป็นเพศอื่น หรือไม่ประสงค์ที่จะระบุอีก 93 ราย

การสัมภาษณ์เชิงปริมาณทั้งหมดดำเนินการอย่างเป็นความลับกับซีอีโอที่เข้าร่วมในการสำรวจนี้ 

อ่านรายงานฉบับประเทศไทยได้ที่เว็บไซต์ของเรา
 

เกี่ยวกับ PwC

ที่ PwC เป้าประสงค์ของเรา คือ การสร้างความไว้วางใจในสังคมและช่วยแก้ปัญหาสำคัญให้กับลูกค้า เราเป็นหนึ่งในบริษัทเครือข่าย 151 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานมากกว่า 360,000 คนที่ยึดมั่นในการส่งมอบบริการคุณภาพด้านการตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษาทางธุรกิจ กฎหมายและภาษี หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ www.pwc.com
 

เกี่ยวกับ PwC ประเทศไทย

PwC ประเทศไทย ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2502 โดยมีบทบาทในการช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจไทยมานานกว่า 65 ปี PwC ผสมผสานประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถในการทำงานกับลูกค้าข้ามชาติ ผนวกกับความเข้าใจตลาดภายในประเทศเป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ชื่อเสียงของ PwC เป็นที่ยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยปัจจุบัน มีบุคลากรมากกว่า 1,800 คนในประเทศไทย

PwC refers to the Thailand member firm, and may sometimes refer to the PwC network. Each member firm is a separate legal entity. Please see www.pwc.com/structure for further details.

© 2024 PwC. All rights reserved

Click here to read English version

Contact us

Ploy Ten Kate

Ploy Ten Kate

Director, PwC Thailand

Tel: +66 (0) 2844 1000 Ext. 4713

Follow us