โดย วิไลพร ทวีลาภพันทอง หุ้นส่วนสายงานธุรกิจที่ปรึกษา บริษัท PwC ประเทศไทย
27 มีนาคม 2563
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ที่ทวีความรุนแรงและแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลกยังคงดำเนินต่อไป โดยไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงโดยง่าย มีหลายฝ่ายได้ออกมาประเมินความเสียหายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ว่า รุนแรงกว่าการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงที่ไม่ทราบสาเหตุ หรือที่ทุกคนรู้จักดีในชื่อ ‘ซาร์ส’ เมื่อปี 2545-2546 มากถึง 3-4 เท่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คน การทำงานขององค์กร และหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเผชิญกับภาวะชะงักงัน และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ผู้คนตกงาน และกำลังซื้อที่หดหาย
นางสาว วิไลพร ทวีลาภพันทอง หุ้นส่วนสายงานธุรกิจที่ปรึกษา บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันหลายองค์กรกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤติที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น พนักงานติดเชื้อ หรือตกเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานและความเชื่อมั่นของธุรกิจ ดังนั้น องค์กรต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งนี้ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมข้อมูล การวางแผนการรับมือภาวะวิกฤติ และการสื่อสารที่ชัดเจนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า คู่ค้า และพนักงาน ทั้งนี้ จากข้อมูลของนิตยสาร Strategy+business ของเครือข่าย PwC ได้นำเสนอ 7 แนวทางรับมือกับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 สำหรับหน่วยงานต่าง ๆ ไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้
“สิ่งแรกที่ทุกองค์กรต้องทำเมื่อเกิดภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 คือ ต้องไม่ตื่นตระหนก และ activate แผนงานบริหารจัดการภาวะฉุกเฉินทันที โดยการสื่อสารและตัดสินใจเด็ดขาดควรต้องมาจากผู้นำองค์กร หรือแหล่งใดแหล่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพื่อป้องกันความสับสนของข้อมูล และการสื่อสารที่ผิดผลาด”
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบนี้จะส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ผลกระทบจะมากหรือน้อยนั้นแตกต่างกันไปตามลักษณะธุรกิจ เช่น ธุรกิจโรงแรม และท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบมากที่สุด รองลงมาเป็น ธุรกิจห้างสรรพสินค้า ค้าปลีก ในขณะที่ธุรกิจออนไลน์ รวมไปถึงธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมจะกระทบน้อยกว่าแต่ก็ต้องประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ๆ เพราะสถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาสัญญาและเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เคยทำกับคู่ค้า รวมไปถึงบริหารจัดการสภาพคล่องและต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ดี เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องไม่เกิดภาวะหยุดชะงัก
หมายเหตุ: บทความนี้ถูกเผยแพร่เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 ทางหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
Marketing and Communications
Bangkok, PwC Thailand
Tel: +66 (0) 2844 1000, Ext. 4713-15, 18, 22-24, 26, 28 and 29