เน็กซ์เจนไทยปรับตัวอย่างไรให้ธุรกิจอยู่รอด?
การจัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนในการบริหารธุรกิจครอบครัวไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเมื่อถามถึงการจัดลำดับความสำคัญที่กล่าวถึงข้างต้น พบว่า เกือบสองในสามของผู้บริหารเน็กซ์เจนไทยมองว่า การบริหารธุรกิจให้กลับมาเติบโต (63%) เป็นภารกิจอันดับแรกที่มีความสำคัญสูงสุด ตามมาด้วยการขยายตัวไปสู่ภาคส่วนหรือตลาดใหม่ (50%) สอดคล้องกับผู้บริหารเน็กซ์เจนทั่วโลกที่ต้องการนำธุรกิจครอบครัวของตนไปสู่ความสำเร็จในระยะยาวเช่นกัน
อ่านเพิ่มเติม
โควิด-19 ทำให้เน็กซ์เจนยิ่งต้องการยกระดับทักษะ
ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้นำรุ่นใหม่ไทยแสดงถึงความเต็มใจที่จะใช้ช่วงโอกาสนี้ในการฝึกฝนทักษะ และพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญใหม่ ๆ และ/หรือเข้ารับการศึกษาอบรมเพิ่มเติม เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจครอบครัวของตน
ไม่เพียงเท่านี้ การระบาดใหญ่ครั้งนี้ยังทำให้พวกเขาได้เข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจครอบครัวมากยิ่งขึ้น และแสดงให้เห็นว่า พวกเขาจำเป็นต้องเสริมและพัฒนาความสามารถในการเป็นผู้นำ โดยผลสำรวจที่ได้จากเน็กซ์เจนไทยนั้นสูงกว่าทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 28%
อ่านเพิ่มเติม
ตอบรับผู้นำรุ่นใหม่ กับ เป้าหมายด้าน ESG
สำหรับธุรกิจครอบครัวของไทยที่วางแผนในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ จะมองข้ามประเด็นนี้ไปไม่ได้ เพราะ ESG จะไม่ใช่เพียงตัวเลือกอีกต่อไป การให้เน็กซ์เจนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำธุรกิจครอบครัว เป็นโอกาสที่จะช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย ESG ได้
จากการสำรวจของเราพบว่า 68% ของผู้นำรุ่นใหม่ไทยเชื่อว่า ธุรกิจของตนมีความรับผิดชอบในการรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (เทียบกับ 36% ของผู้นำรุ่นปัจจุบัน) ซึ่งใกล้เคียงกับผู้นำรุ่นใหม่ทั่วโลกที่ 71%
อ่านเพิ่มเติม
ความรวดเร็วในการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล
ผลจากการสำรวจพบว่า 35% ของผู้นำรุ่นใหม่ไทยเชื่อว่า พวกเขามีความสามารถด้านดิจิทัล ซึ่งสูงกว่าผู้นำรุ่นปัจจุบันที่ 28% นอกจากนี้ 33% มองว่า ผู้นำรุ่นปัจจุบันยังไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับโอกาสและความเสี่ยงทางดิจิทัลที่มีต่อธุรกิจทั้งหมด
อ่านเพิ่มเติม
รักษาความมั่นคงของธุรกิจครอบครัวในอนาคต
ในประเทศไทย ผู้นำรุ่นใหม่และผู้นำรุ่นปัจจุบันได้แสดงให้เห็นถึงการร่วมมือกันมากกว่าที่เคยในการแก้ปัญหาทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจากผลกระทบของวิฤตโควิด-19 โดยผลจากการสำรวจพบว่า 45% ของผู้นำรุ่นใหม่ไทย เข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารธุรกิจครอบครัวมากขึ้น ใกล้เคียงกับผู้บริหารเน็กซ์เจนทั่วโลกที่ 43%
อ่านเพิ่มเติม