ห่วงโซ่อุปทานโลก: การแข่งขันสู่การปรับสมดุลใหม่

APEC 2023
  • Insight
  • 10 minute read
  • December 13, 2023

ความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากอัตราเงินเฟ้อ วิกฤตพลังงาน และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ท่ามกลางปัจจัยอื่น ๆ ที่ได้สร้างความเป็นจริงใหม่สำหรับผู้นำทางธุรกิจ การแข่งขันระดับโลกกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้เนื่องจากธุรกิจต่าง ๆ มองหาการปรับสมดุลของห่วงโซ่อุปทานของตน และแสวงหาซัพพลายเออร์ ทำเลที่ตั้ง อีกทั้งบุคลากรผู้มีความสามารถรายใหม่ ขณะที่การมุ่งเน้นไปที่ความยืดหยุ่นและความสามารถในการทำกำไรในระยะสั้นอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ธุรกิจจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเพื่ออยู่รอดและเติบโต

ในประวัติศาสตร์แทบจะไม่เคยมีผู้นำธุรกิจที่ต้องรับมือกับความท้าทายเท่าที่มีในช่วงสามปีที่ผ่านมา โดยแต่ละความท้าทายมีความซับซ้อนไม่ซ้ำกันและเพิ่มพูนมากขึ้น อีกทั้งผู้นำยังต้องตอบสนองต่อความท้าทายทั้งหมดเหล่านี้ในคราวเดียว

ซีอีโอและทีมผู้นำองค์กรจะต้องเป็นนักการทูตเพื่อจัดการกับปัญหาภูมิเศรษฐกิจและการแบ่งขั้ว เป็นผู้จัดการภาวะวิกฤตเพื่อระงับความไม่พอใจของลูกค้าเมื่อการหยุดชะงักของอุปทานจำกัดความพร้อมของสินค้า และเป็นผู้ที่รักษาบุคลากรผู้มีความสามารถ อีกทั้งเป็นผู้ที่มีจิตสำนึกต่อสังคมในการมองการตัดสินใจผ่านเลนส์ ESG เป็นผู้มีความรู้ทางดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันก็เป็นผู้ที่สามารถยอมรับความเสี่ยงสำหรับการสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจใหม่

การมุ่งเน้นไปที่ความยืดหยุ่นและความสามารถในการทำกำไรในระยะสั้นอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ธุรกิจจึงจำเป็นเปลี่ยนแปลงเพื่ออยู่รอดและเติบโต

โชคดีที่แม้ว่าจะมีความวุ่นวายทั่วโลก แต่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ ในทศวรรษหน้า 70% ของการเติบโตทั่วโลกจะมาจากเอเชียแปซิฟิก ภูมิภาคนี้คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายผู้บริโภครวมสูงสุดภายในปี 2573 และเป็นที่ตั้งของตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุด

ทั้งนี้ มีคำถามพื้นฐานสามประการที่ธุรกิจควรต้องพิจารณาเมื่อปรับตำแหน่งห่วงโซ่อุปทานเพื่อการเติบโต ได้แก่

ห่วงโซ่อุปทานไม่ใช่ข้อกังวลด้านการปฏิบัติงานอีกต่อไป แต่เป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ที่ถือเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในช่วงเวลาที่วุ่นวาย การแข่งขันแย่งชิงสถานที่ตั้งที่เหมาะสม ซัพพลายเออร์ และบุคลากรที่มีความสามารถกำลังเข้มข้นขึ้น เนื่องจากธุรกิจระดับโลกหันมามองหาการจัดหาและการผลิตในเอเชียและที่อื่น ๆ มากขึ้น

การนำเทคโนโลยีมาใช้ควรสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจโดยรวม เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนด้านดิจิทัลจะมีส่วนทำให้เกิดการเติบโตในระยะยาวและความได้เปรียบทางการแข่งขัน การเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานเชิงเส้นของคุณให้เป็นระบบนิเวศดิจิทัลเดียว คือ มาตรฐานทองคำ

ความยั่งยืนเป็นตัวขับเคลื่อนคุณค่า ไม่ใช่ต้นทุน การฝังหลักการ ESG ไว้ในธุรกิจของคุณ ไม่ใช่การปฏิบัติตามระเบียบอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งรับประกันถึงความอยู่รอดของธุรกิจในระยะยาวในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ธุรกิจต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความคาดหวังที่เพิ่มมากขึ้นในการทำความเข้าใจ รายงาน และดำเนินการเพื่อป้องกันผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นและอาจเกิดขึ้น รวมถึงการละเมิดแรงงานทาสสมัยใหม่ในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

Playback of this video is not currently available

0:31

ความวุ่นวายทั่วโลกที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องมีแต่ทำให้วิกฤตห่วงโซ่อุปทานในช่วงปีโควิดรุนแรงขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันสำหรับซัพพลายเออร์ สถานที่ตั้ง และผู้มีความสามารถรายใหม่ เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ทั่วทั้งองค์กรมากขึ้น แต่ถึงแม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโต ธุรกิจที่สร้างความแตกต่างเพื่อชนะการแข่งขันครั้งนี้ การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและ ESG เพื่อประโยชน์ของตนจะช่วยให้เห็นความสำเร็จในอนาคตที่มั่นคง ค้นพบขั้นตอนเชิงปฏิบัติที่ซีอีโอสามารถนำไปปรับสมดุลใหม่เพื่อการเติบโต

Contact us

Christopher Kelkar

PwC Asia Pacific Vice Chairman, Operations, PwC US

Sridharan Nair

PwC Asia Pacific Vice Chairman, Markets, PwC Malaysia

Julien Courbe

Deputy Global Advisory Leader, PwC US

Hide
Follow us