ดาวน์โหลดรายงานฉบับประเทศไทย
ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของผู้นำในธุรกิจครอบครัว การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญซึ่งเป็นผลมาจากความสามารถอันทรงพลังของปัญญาประดิษฐ์แบบรู้สร้าง (generative AI: GenAI) ที่จะเข้ามาพลิกโฉมธุรกิจครอบครัวกำลังเกิดขึ้น ช่วงเวลาอันสำคัญนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงผู้นำเท่านั้น แต่ยังเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ในการนำเทคโนโลยีรูปแบบใหม่มาใช้ในธุรกิจครอบครัวไทยอีกด้วย
โดยในปี 2567 และปีต่อ ๆ ไป GenAI จะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จในอนาคตของธุรกิจครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำธุรกิจครอบครัวรุ่นใหม่ (เน็กซ์เจน) ในประเทศไทย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการนำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ธุรกิจครอบครัวของตน
ผลการสำรวจในปีนี้เผยให้เห็นว่า เน็กซ์เจนไทยมีมุมมองเชิงบวกต่อ GenAI เช่นเดียวกับเน็กซ์เจนทั่วโลก และเมื่อเทียบกับผู้บริหารรุ่นปัจจุบัน โดยเน็กซ์เจนไทย 79% ยอมรับว่า AI เป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 73%
ตัวเลขนี้ยังสะท้อนถึงความเห็นที่สอดคล้องกันระหว่างเน็กซ์เจนไทยกับซีอีโอไทย เกี่ยวกับศักยภาพของ GenAI อีกด้วย โดยข้อมูลจากรายงานผลสำรวจซีอีโอทั่วโลกประจำปี ครั้งที่ 27 ฉบับประเทศไทย ระบุว่า ซีอีโอไทย 61% เชื่อว่า GenAI จะเปลี่ยนแปลงวิธีที่บริษัทสร้าง ส่งมอบ และรวบรวมคุณค่าได้อย่างมีนัยสำคัญ
ธุรกิจครอบครัวไทย มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนากลยุทธ์ด้าน GenAI เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ที่อาจส่งผลต่อการดำรงอยู่ของธุรกิจและเพื่อกำหนดทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงกล่าวได้ว่า เน็กซ์เจนไทยจะมีหน้าที่รับผิดชอบต่อธุรกิจ ครอบครัว พนักงาน และสังคมโดยรวมของตน
คำถาม: คุณสนใจ GenAI มากแค่ไหน
ประเทศไทย
ทั่วโลก
ที่มา: รายงานผลสำรวจผู้นำธุรกิจครอบครัวรุ่นใหม่ ประจำปี 2567 ฉบับประเทศไทย
เน็กซ์เจนไทยโดยทั่วไปมีมุมมองเชิงบวกต่อ GenAI ซึ่งเป็นผลมาจากความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ ประกอบกับความสามารถด้านดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ความสนใจใน GenAI ของเน็กซ์เจนไทย (64%) ยังค่อนข้างน้อยกว่าเน็กซ์เจนทั่วโลก (82%) แม้ว่าเกือบ 80% ของเน็กซ์เจนไทย จะเชื่อว่า GenAI เป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจก็ตาม
คำถาม: กรุณาเลือกสามอันดับแรกที่คุณคิดว่า AI จะช่วยเหลือธุรกิจของคุณได้อย่างมีนัยสำคัญ (ถ้ามี)
ที่มา: รายงานผลสำรวจผู้นำธุรกิจครอบครัวรุ่นใหม่ ประจำปี 2567 ฉบับประเทศไทย
เน็กซ์เจนไทยเกือบครึ่งหนึ่ง (48%) เชื่อว่า การใช้ประโยชน์จาก AI จะช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาเติบโต ในขณะที่ 42% มองว่าเป็นช่องทางในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้ นอกจากนี้ 33% เชื่อว่า AI จะนำไปสู่การยกระดับทักษะของพนักงาน และสามารถช่วยส่งเสริมการลงทุนด้านนวัตกรรม รวมถึงการวิจัยและพัฒนา (R&D) ได้อีกด้วย
คำถาม: คุณคิดว่าการนำเทคโนโลยี GenAI มาใช้ในธุรกิจครอบครัวของคุณขณะนี้ อยู่ในระดับใด
ที่มา: รายงานผลสำรวจผู้นำธุรกิจครอบครัวรุ่นใหม่ ประจำปี 2567 ฉบับประเทศไทย
แม้จะมีทัศนคติเชิงบวกเกี่ยวกับ AI ดังที่กล่าวในข้างต้น แต่เน็กซ์เจนไทยกลับรู้สึกว่า ธุรกิจครอบครัวของพวกเขากำลังประสบปัญหาในการปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ พวกเขายังแสดงความไม่มั่นใจว่าผู้นำรุ่นปัจจุบันจะมีความเข้าใจที่ดีพอเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ซึ่งประเด็นนี้ชี้ให้เห็นถึงความไม่สอดคล้องกันระหว่างความสนใจส่วนบุคคล ทักษะความสามารถต่าง ๆ รวมถึงแนวทางการใช้เทคโนโลยี AI ของธุรกิจครอบครัว
ทั้งนี้ 58% ของธุรกิจครอบครัวไทย ได้สั่งห้ามการใช้ GenAI หรือยังไม่ได้เริ่มสำรวจเทคโนโลยีนี้ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 49% ในขณะเดียวกัน หนึ่งในสามของธุรกิจครอบครัวไทยอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการสำรวจ AI แต่มีเพียง 3% เท่านั้นที่มีบุคคลหรือทีมงานในบริษัทที่รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับ GenAI
คำถาม: คุณคิดว่ากลุ่มคนต่อไปนี้มีความรู้เกี่ยวกับ GenAI มากหรือน้อยแค่ไหน
ตัวคุณเอง
ทีมผู้บริหารของบริษัท
บุคคลอื่นที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
ในด้านนี้
มีความรู้เป็นอย่างดี
มีความรู้พอสมควร
มีความรู้ในระดับน้อย
ไม่มีความรู้เลย
ไม่ทราบ / ไม่เกี่ยวข้อง
ที่มา: รายงานผลสำรวจผู้นำธุรกิจครอบครัวรุ่นใหม่ทั่วโลก ประจำปี 2567 ฉบับประเทศไทย
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเน็กซ์เจนไทยเกือบครึ่งหนึ่งจะระบุว่า พวกเขามีความรู้เกี่ยวกับ GenAI แต่มีเพียง 6% เท่านั้นที่มองว่า ตนเองมีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดี ในขณะเดียวกัน 21% ยอมรับว่า ตนเองไม่มีความรู้ด้าน GenAI ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่สอดคล้องกันระหว่างระดับความรู้ที่รับรู้ได้ กับประสบการณ์การใช้งาน GenAI ส่วนบุคคล
ผลสำรวจข้างต้นนี้สะท้อนให้เห็นว่ามีกลุ่มเน็กซ์เจนไทยที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของ AI และกำลังสำรวจวิธีการใช้งานอย่างจริงจัง รวมถึงประโยชน์ของ AI ที่จะส่งผลต่อธุรกิจของพวกเขา อย่างไรก็ดี รายงานผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า การที่จะนำ AI ไปใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วทั้งองค์กรนั้น ยังมีหนทางอีกยาวไกล
คำถาม: คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไรที่ว่า GenAI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อไปนี้ให้กับบริษัทของคุณ ภายใน 12 เดือนข้างหน้า
ที่มา: รายงานผลสำรวจผู้นำธุรกิจครอบครัวรุ่นใหม่ทั่วโลก ประจำปี 2567 ฉบับประเทศไทย
แม้เน็กซ์เจนไทยจะมีทัศนคติเชิงบวกต่อประโยชน์ของ AI ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น การตัดสินใจที่ดีขึ้น และผลผลิตของพนักงานที่มากขึ้น แต่ก็มีความกังวลด้วยเช่นกัน ตัวอย่าง เช่น เน็กซ์เจนไทย 30% รู้สึกว่า GenAI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ ตามมาด้วยความรับผิดทางกฎหมาย (27%) และความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (27%) ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ตัวเลขเหล่านี้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของเน็กซ์เจนทั่วโลกอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (48%)
พบกับข้อแนะนำสำหรับเน็กซ์เจนไทยและผู้นำธุรกิจครอบครัวรุ่นปัจจุบัน เพื่อช่วยให้มั่นใจว่าธุรกิจของคุณจะยังคงอยู่ต่อไปในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้
อ่านรายงานฉบับโลกได้ที่นี่